ฟ้องผิดสัญญาซื้อขายคืออะไร? เข้าใจง่ายภายใน 5 นาที
เข้าใจสิทธิของผู้เสียหายกรณีถูกผิดสัญญาซื้อขาย ฟ้องได้จริงไหม? พร้อมวิธีเช็กสิทธิและแนวทางเบื้องต้นภายใน 5 นาที เข้าใจง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานกฎหมาย
เมื่อมีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้า ขายบริการ หรือขายทรัพย์สินใด ๆ หากฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญา หรือฝ่าฝืนข้อสัญญาข้อใดข้อหนึ่งตามที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือตามกฎหมาย ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่าย ซึ่งในทางกฎหมายเรียกว่าการ “ผิดสัญญาซื้อขาย” ทำให้คู่สัญญาอีกฝ่ายสามารถใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาหรืออาจจะมีผลให้สัญญาเลิกกันทันทีแล้วแต่ข้อกำหนดในสัญญานั้นๆและอีกฝ่ายหนึ่งดำเนินการฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย เพื่อเรียกค่าเสียหายหรือบังคับให้ดำเนินการตามสัญญาได้ทันที
ฟ้องผิดสัญญาซื้อขายคืออะไร? เจาะลึกความหมายในทางกฎหมาย
การฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย หมายถึง การที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลเมื่ออีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา เช่น ไม่ส่งมอบสินค้า ไม่ชำระเงินค่าสินค้าตามที่กำหนด หรือส่งของไม่ตรงตามคุณภาพที่ตกลงกันไว้ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการผิดสัญญาทำให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง และสามารถเรียกร้องค่าเสียหาย หรือให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้ดำเนินการตามสัญญาได้ตามมาตรา 453-517 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สถานการณ์ใดบ้างที่สามารถฟ้องผิดสัญญาซื้อขายได้?
การฟ้องผิดสัญญาซื้อขายสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์ เช่น
- ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้า หรือส่งของล่าช้าเกินกำหนด
- ผู้ขายส่งของที่เสียหาย ชำรุด หรือไม่ตรงตามสเปกที่ตกลงกัน
- ผู้ซื้อไม่ยอมชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบจำนวน
- ผู้ซื้อรับของแล้วแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ตกลงซื้อ
- การละเมิดเงื่อนไขในสัญญาอื่น ๆ เช่น ค่าปรับ ดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขพิเศษ
สิ่งสำคัญคือ ต้องมีหลักฐาน เช่น สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ใบเสนอราคา หรือพยานที่สามารถยืนยันข้อตกลงระหว่างกันได้ ทั้งนี้การซื้อขายไม่จำเป็นจะต้องมีแบบหรือหลักฐานเสมอไปหากได้ส่งมอบแล้วหรือวางมัดจำบางส่วนและการซื้อขายจำนวนอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องทำหนังสือตามแบบที่กฎหมายกำหนด
ขั้นตอนการฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย ต้องทำอย่างไร?
1. เตรียมหลักฐานและรายละเอียดการผิดสัญญา
ผู้ฟ้องควรรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาสัญญา หลักฐานการชำระเงิน การส่งสินค้า หรือบทสนทนาทางแชตหรืออีเมลที่มีการตกลงกันไว้ เพื่อยื่นประกอบต่อศาล
2. แจ้งความประสงค์ไปยังอีกฝ่าย
แม้กฎหมายไม่ได้บังคับ แต่ควรมีการส่งหนังสือแจ้งเตือนให้คู่สัญญาอีกฝ่ายรับทราบถึงการผิดสัญญา และให้โอกาสในการแก้ไขก่อนดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งแสดงถึงความสุจริตและเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในชั้นศาล
3. ยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ
โดยทั่วไปจะยื่นฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ หรือศาลที่เกิดสัญญา การจัดเตรียมคำฟ้องควรให้ทนายความที่เชี่ยวชาญเป็นผู้จัดทำ เพื่อบรรยายคำฟ้องให้กระชับและเข้าใจง่ายไม่ฟุ่มเฟือยพร้อมแนบเอกสารต่างประกอบเพื่อให้เข้าใจฟ้องได้และอีกฝ่ายไม่หลง
4. เข้าสู่กระบวนการพิจารณาและพิพากษาคดี
เมื่อศาลรับคำฟ้อง โจทก์ผู้ฟ้องมีการกำหนดวันและส่งสำเนาคำฟ้องไปให้อีกฝ่ายนัดให้อีกฝ่ายยื่นคำให้การต่อสู้คดีหรือนัดให้ทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจะนัดพิจารณาคดี และออกคำพิพากษาว่าจะให้ชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่ และในจำนวนเท่าใด
ฟ้องผิดสัญญาซื้อขายต้องฟ้องภายในกี่ปี?
ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 การฟ้องผิดสัญญาซื้อขายต้องยื่นฟ้องภายใน “10 ปี” นับจากวันที่มีการผิดสัญญาเกิดขึ้น หรือ “2 ปี” หากเป็นการฟ้องค่าเสียหายที่เกิดจากการขายของเสีย ของไม่ได้มาตรฐาน ของชำรุด หากพ้นกำหนดนี้ จะถือว่าหมดอายุความ ไม่สามารถฟ้องร้องได้
ฟ้องผิดสัญญาซื้อขายเรียกอะไรได้บ้าง?
การฟ้องผิดสัญญาซื้อขายสามารถเรียกร้องได้ทั้ง
- ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าสินค้าที่ต้องไปซื้อใหม่ ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ
- ดอกเบี้ยตามที่ตกลง หรืออัตราที่กฎหมายกำหนด
- ค่าทนายความและค่าดำเนินคดีที่อีกฝ่ายได้จ่ายไปตามที่จ่ายจริงหรือตามที่ศาลกำหนด
- คำสั่งศาลให้บังคับคู่กรณีปฏิบัติตามสัญญา (เช่น ส่งของตามเดิมหากไม่ส่งจะต้องใช้เงินแทน)
คำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย
หากคุณเป็นผู้เสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขาย ไม่ควรปล่อยให้ความเสียหายดำเนินต่อไปโดยไม่ดำเนินการใด ๆ ควรเริ่มจากการปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านคดีแพ่งหรือคดีธุรกิจ เพื่อวางแผนการฟ้องร้องและประเมินความคุ้มค่า เพราะการฟ้องคดีต้องใช้ทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และความพร้อมในการต่อสู้ทางกฎหมาย
การฟ้องผิดสัญญาซื้อขายเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมเมื่ออีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามสัญญา ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนและการดำเนินการตามขั้นตอน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะคดีและได้รับความคุ้มครองตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด
สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมทีมทนายคดีอาญาและทนายคดี ปกครอง คดีครอบครัว ผู้มีประสบการณ์ในการว่าความ ให้คำแนะนำและดำเนินคดีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา ฟ้องชู้เรียกค่าทดแทน ฟ้องหย่าเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคู่สมรส ฟ้องแชร์ ฟ้องคดีฉ้อโกงหรือฟ้องยักยอกทรัพย์ เพื่อเรียกคืนทรัพย์ รวมถึงฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและฟ้องค่าส่วนกลางของนิติบุคคล และจ้างทำของทุกชนิด
นอกจากนี้ เรายังมีบริการจ้างนักสืบ โดยทีมนักสืบเอกชน ช่วยตรวจสอบข้อมูล ติดตามพฤติกรรมบุคคล หรือสืบทรัพย์ บังคับคดี เพื่อให้ลูกค้าสามารถบังคับคดีตามทรัพย์หรือเงินคืนได้รวมถึงบริการจ้างทนายไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกทางกฎหมายโดยสันติวิธี
สำหรับงานด้านมรดก เราช่วยตั้งผู้จัดการมรดกให้เป็นไปตามกฎหมาย ช่วยให้กระบวนการจัดการทรัพย์สินราบรื่น และหากต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เรายังให้บริการที่ปรึกษากฎหมาย พร้อมปรึกษาทนายความได้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นทนายคดีปกครอง หรือฟ้องแชร์ เราพร้อมดูแลทุกปัญหาทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ และรักษาความลับของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้คุณได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือองค์กร บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมเป็นที่พึ่งพาทางกฎหมายให้คุณ