ฟ้องชู้กับฟ้องหย่าต่างกันอย่างไร? เข้าใจสิทธิและผลทางกฎหมาย
ReadyPlanet.com
ฟ้องชู้กับฟ้องหย่าต่างกันอย่างไร

   

ฟ้องชู้กับฟ้องหย่าต่างกันอย่างไร? เข้าใจสิทธิและผลทางกฎหมาย

ฟ้องชู้ กับฟ้องหย่าต่างกันอย่างไร? เข้าใจสิทธิของคู่สมรส เหตุผลในการฟ้อง รูปแบบการดำเนินคดี และผลทางกฎหมายที่ตามมาเพื่อเตรียมตัวอย่างถูกต้อง

 

ฟ้องชู้กับฟ้องหย่าต่างกันอย่างไร? เข้าใจสิทธิและผลทางกฎหมาย

 

 

ในชีวิตสมรส ความซื่อสัตย์และการอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจถือเป็นหัวใจสำคัญ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อีกฝ่ายมีชู้หรือความสัมพันธ์ที่ทำให้ชีวิตคู่สั่นคลอน หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างการฟ้องชู้และฟ้องหย่า ว่ามีจุดประสงค์แตกต่างกันอย่างไร มีสิทธิอะไรบ้าง และต้องเตรียมตัวในแง่กฎหมายอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของทั้งสองกระบวนการเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง

ฟ้องชู้คืออะไร?

การฟ้องชู้เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งซึ่งได้รับความเสียหายจากการที่อีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับบุคคลที่สาม สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 การฟ้องชู้ไม่ใช่การฟ้องเพื่อให้เลิกกัน แต่เป็นการฟ้องบุคคลภายนอกที่ละเมิดสิทธิในความเป็นสามีหรือภรรยา โดยมีเจตนาทำให้ครอบครัวแตกแยก

ฟ้องหย่าคืออะไร?

การฟ้องหย่าคือการใช้สิทธิของคู่สมรสฝ่ายหนึ่งในการยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้การสมรสนั้นสิ้นสุดลงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเหตุในการฟ้องหย่าสามารถเป็นได้หลายอย่าง เช่น อีกฝ่ายทิ้งร้างไปเกิน 1 ปี หรือต่างฝ่ายต่างสมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี

ความแตกต่างระหว่างฟ้องชู้กับฟ้องหย่า

จุดแตกต่างสำคัญคือ “คู่กรณี” และ “ผลทางกฎหมาย” ในกรณีฟ้องชู้ คู่กรณีคือบุคคลที่สาม ส่วนในกรณีฟ้องหย่า คู่กรณีคือคู่สมรสโดยตรง อีกทั้งฟ้องชู้เป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย ส่วนฟ้องหย่าเป็นการยุติความสัมพันธ์สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย และอาจพ่วงด้วยการแบ่งสินสมรส สิทธิเลี้ยงดูบุตร หรือการเรียกค่าเลี้ยงดู

สิทธิของคู่สมรสในการฟ้องชู้

ผู้ที่ถูกนอกใจมีสิทธิฟ้องชู้โดยไม่จำเป็นต้องหย่าก่อน แต่ต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เช่น ข้อความสนทนา รูปถ่าย หรือพยานบุคคลที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมชู้สาวจริง โดยศาลจะพิจารณาตามพฤติกรรมที่แสดงออก เช่น การอยู่กินฉันสามีภรรยากับบุคคลที่สาม การมีบุตรร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงาน หรือการเผยแพร่ภาพในเชิงชู้สาวต่อสาธารณะ

รูปแบบการดำเนินคดีฟ้องชู้

การฟ้องชู้ต้องดำเนินการโดยการยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว มีการเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งอาจเป็นทั้งทางจิตใจและชื่อเสียง โดยศาลจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกฟ้องมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์สมรสเสียหายหรือไม่ การฟ้องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการหย่าโดยตรง แต่สามารถทำควบคู่กันได้หากมีเหตุ

ผลทางกฎหมายจากการฟ้องชู้

การฟ้องชู้ส่งผลให้บุคคลที่สามต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจำนวนขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในแต่ละกรณี โดยมากศาลจะกำหนดให้ที่ หลักแสน ถึงหลักล้าน ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น จะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ ความเสียหายกำหนดจาก
1. ระยะเวลาการจดทะเบียนสมรส
2. การจัดงานฉลองสมรส การอยู่กินกันนั้นผู้คนรับรู้มากน้อยเพียงใด
3. มีบุตรด้วยกันหรือไม่
4. การศึกษา ฐานะของฝ่ายโจทก์ หรือผู้ฟ้อง สมควรได้รับความชดใช้มากน้อยเพียงใด
5. ความรู้สำนึกของอีกฝ่าย (จำเลย) ภายหลังฟ้องยุติความสัมพันธ์หรือไม่ พยายามบรรเทาผลร้ายหรือไม่
6. พฤติการณ์ในการเป็นชู้ เปิดเผยมากน้อยเพียงใด สร้างความเสียหายมากแค่ไหน ก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

ฟ้องหย่าและผลกระทบตามกฎหมาย

เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้หย่า การสมรสจะสิ้นสุดลงโดยชอบ คู่สมรสอาจมีสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงดู การแบ่งสินสมรส และสิทธิในการปกครองบุตร การฟ้องหย่าจึงไม่ใช่เพียงเรื่องความรู้สึก แต่ยังเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในอนาคตของทั้งคู่และบุตรด้วย โดยเฉพาะกรณีที่มีทรัพย์สินร่วมกันหรือหนี้สินคงค้าง

ฟ้องชู้ไม่ใช่ฟ้องหย่า แต่สามารถฟ้องควบคู่กันได้

หลายคนเข้าใจผิดว่าต้องหย่าก่อนจึงฟ้องชู้ได้ หรือการฟ้องชู้จะทำให้ศาลสั่งหย่าโดยอัตโนมัติ ความจริงแล้วสามารถดำเนินการควบคู่กันได้ เช่น ยื่นฟ้องหย่าและฟ้องชู้พร้อมกัน โดยระบุเหตุฟ้องว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับบุคคลที่สาม และเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่สามในคดีเดียวกัน

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนฟ้องชู้

ปัจจุบัน การเป็นชู้ไม่จำเป็นต้องมีการเปิดเผยตัวตนอย่างชัดเจนเหมือนในอดีต ขอเพียงมีหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ในลักษณะชู้สาว หากมีข้อมูลดังกล่าวสามารถส่งให้ทนายความพิจารณาเบื้องต้นได้ และหากเห็นว่าหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอ ก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายได้

ทำไมควรมีทนายความดูแลคดีฟ้องชู้

แม้กฎหมายจะเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถดำเนินการเองได้ แต่ในคดีฟ้องชู้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิส่วนบุคคล การเรียกร้องค่าเสียหาย และการวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม การมีทนายความที่มีประสบการณ์จะช่วยให้สามารถรวบรวมหลักฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อสู้คดีได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ฟ้องชู้ คือการเรียกร้องความรับผิดจากบุคคลที่สามที่ละเมิดความสัมพันธ์สมรส ขณะที่ฟ้องหย่า คือกระบวนการยุติความสัมพันธ์สมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งสองมีสิทธิและผลทางกฎหมายที่แตกต่างกัน แต่สามารถดำเนินการควบคู่กันได้ โดยต้องมีการเตรียมตัวทั้งในด้านจิตใจ เอกสาร และกฎหมาย หากคุณกำลังเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ การปรึกษาทนายความเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยให้คุณรักษาสิทธิของตนเองได้อย่างรอบคอบและเหมาะสม


สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมทีมทนายคดีอาญาและทนายคดีครอบครัว ผู้มีประสบการณ์ในการว่าความ ให้คำแนะนำและดำเนินคดีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา ฟ้องชู้เรียกค่าทดแทน ฟ้องหย่าเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคู่สมรส ฟ้องแชร์ ฟ้องคดีฉ้อโกงหรือฟ้องยักยอกทรัพย์ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม รวมถึงฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและฟ้องค่าส่วนกลางของนิติบุคคล

นอกจากนี้ เรายังมีบริการจ้างนักสืบ โดยทีมนักสืบเอกชน ช่วยตรวจสอบข้อมูล ติดตามพฤติกรรมบุคคล หรือสืบทรัพย์ บังคับคดี เพื่อให้ลูกค้าได้รับความเป็นธรรมสูงสุด รวมถึงบริการจ้างทนายไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกทางกฎหมายโดยสันติวิธี

สำหรับงานด้านมรดก เราช่วยตั้งผู้จัดการมรดกให้เป็นไปตามกฎหมาย ช่วยให้กระบวนการจัดการทรัพย์สินราบรื่น และหากต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เรายังให้บริการที่ปรึกษากฎหมาย พร้อมปรึกษาทนายความได้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นทนายคดีปกครอง หรือฟ้องแชร์ เราพร้อมดูแลทุกปัญหาทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ และรักษาความลับของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้คุณได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือองค์กร บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมเป็นที่พึ่งพาทางกฎหมายให้คุณ


ต้องการที่ปรึกษากฎหมายอย่างเร่งด่วน
ติดต่อสำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด