ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ได้เท่าไร? รู้ก่อนตัดสินใจฟ้อง
ReadyPlanet.com
ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ได้เท่าไร

   

ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ได้เท่าไร? รู้ก่อนตัดสินใจฟ้อง

ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ ได้เท่าไร? รู้ก่อนตัดสินใจฟ้อง พร้อมอธิบายหลักเกณฑ์การเรียกค่าเสียหาย หลักฐานที่ต้องมี และปัจจัยที่ศาลใช้พิจารณาในการตัดสิน

 

ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ได้เท่าไร? รู้ก่อนตัดสินใจฟ้อง

 

 

เมื่อชีวิตคู่ต้องเผชิญกับการนอกใจ สิ่งที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดทางใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำถามที่สำคัญว่า “สามารถเรียกร้องความยุติธรรมทางกฎหมายได้หรือไม่?” ในกรณีที่อีกฝ่ายมีพฤติกรรมเป็นชู้กับบุคคลที่สาม คู่สมรสที่ถูกละเมิดสิทธิสามารถฟ้องชู้ เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามกฎหมายไทย อย่างไรก็ตาม หลายคนยังไม่แน่ใจว่า ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้จะได้เท่าไร? มีหลักเกณฑ์ใดที่ศาลพิจารณา? ต้องเตรียมหลักฐานอะไร? บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดให้กระจ่าง

ฟ้องชู้คืออะไร และมีสิทธิเรียกร้องได้อย่างไร?

การฟ้องชู้ หมายถึงการดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นผู้แทรกแซงหรือมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคู่สมรสของตน โดยถือเป็นการละเมิดต่อสิทธิในชีวิตสมรสและเกียรติยศของผู้ฟ้อง โดยไม่จำเป็นต้องมีการฟ้องหย่าร่วมด้วยเสมอไป หากผู้ฟ้องยังต้องการดำรงสถานภาพสมรส
สิทธินี้มีรองรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 ซึ่งระบุว่าคู่สมรสที่ถูกละเมิดมีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนจากชู้ได้ หรือมีพฤติกรรมในลักษณะชู้สาวอย่างชัดเจน

ค่าชดเชยจากการฟ้องชู้ได้เท่าไร?

คำถามสำคัญที่หลายคนต้องการคำตอบคือ “การฟ้องชู้จะได้รับค่าชดเชยเป็นเงินเท่าไร?” ความจริงคือ กฎหมายไม่ได้กำหนดจำนวนเงินตายตัวไว้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลในการพิจารณา ซึ่งอาจเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาทขึ้นไป หรือมากกว่านั้นในบางกรณี โดยพิจารณาตามปัจจัยดังนี้

ปัจจัยที่ศาลใช้ในการพิจารณาค่าชดเชย

  1. ระดับความรุนแรงของการกระทำ – หากมีหลักฐานการสมสู่หรือความสัมพันธ์ลึกซึ้งยาวนาน ศาลจะพิจารณาให้ค่าชดเชยมากขึ้น
  2. ผลกระทบต่อผู้ฟ้อง – หากเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น ถูกดูหมิ่น ถูกเผยแพร่ภาพ เสียชื่อเสียงต่อสาธารณะ อาจมีสิทธิเรียกค่าสินไหมในจำนวนสูงขึ้น
  3. ฐานะของจำเลย – รายได้ สถานะทางสังคม หรือความสามารถในการชดใช้ของบุคคลที่ถูกฟ้อง อาจมีผลต่อจำนวนเงินที่ศาลกำหนด
  4. พฤติกรรมของคู่สมรส – ศาลจะพิจารณาว่าผู้ฟ้องได้มีความพยายามรักษาชีวิตสมรสหรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมของคู่สมรสก่อนเกิดการนอกใจ
  5. การให้อภัยหรือไม่ฟ้องนานเกินไป – หากมีการให้อภัยมาก่อน หรือปล่อยให้เวลาล่วงเลยเกินอายุความ 1 ปี ก็อาจถูกปฏิเสธสิทธิในการฟ้อง

หลักฐานที่ต้องมีเมื่อฟ้องชู้

การฟ้องชู้จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ว่าคู่สมรสของตนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับบุคคลที่สามจริง โดยหลักฐานที่มีน้ำหนัก ได้แก่

  • ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงถึงการอยู่ในลักษณะชู้สาว เช่น เข้าพักในโรงแรมเดียวกันหรือมีพฤติกรรมเกินเลย
  • แชตหรือข้อความในแอปต่าง ๆ ที่สื่อความสัมพันธ์เกินเลย
  • หลักฐานการโอนเงิน การซื้อของให้กัน การเดินทางร่วมกันในลักษณะคู่รัก
  • พยานบุคคล เช่น เพื่อนบ้าน หรือผู้ที่พบเห็นพฤติกรรมผิดปกติ

ควรเน้นว่า หลักฐานต้องชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้มาจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคู่สมรสหรือชู้ เช่น การดักฟัง หรือแอบติดกล้องโดยไม่ได้รับอนุญาต

อายุความในการฟ้องชู้

พฤติการณ์แห่งการเป็นชู้ หากเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยคู่สมรสไม่เคยให้อภัยหรือยินยอมรับสถานะดังกล่าว เช่น การยอมให้บุคคลที่สามอยู่ร่วมกันในลักษณะฉันสามีภรรยา ยังคงสามารถใช้สิทธิฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการหย่าแล้ว ยังสามารถฟ้องได้เช่นกัน โดยต้องดำเนินการภายใน 1 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนหย่า ทั้งนี้ พฤติการณ์การเป็นชู้ต้องเกิดขึ้นในช่วงก่อนการหย่า และต้องเป็นเหตุสำคัญที่นำไปสู่การหย่าร้างด้วย

จำเป็นต้องฟ้องหย่าพร้อมกันหรือไม่?

ผู้เสียหายสามารถเลือกที่จะฟ้องชู้ โดยไม่ฟ้องหย่าก็ได้ หากยังต้องการรักษาสถานภาพสมรสไว้ หรือหากต้องการแยกทางในภายหลังก็สามารถฟ้องหย่าแยกอีกคดีหนึ่งได้ ซึ่งหากมีการฟ้องหย่าพร้อมกัน การฟ้องชู้อาจเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบพฤติกรรมละเมิดเพื่อขอหย่าด้วย

ฟ้องชู้ได้จากกรณีใดบ้าง?

กฎหมายไทยจะพิจารณาการฟ้องชู้ได้ในกรณีที่มี “พฤติการณ์เป็นชู้” ระหว่างคู่สมรสกับบุคคลที่สาม หรือมีพฤติกรรมในลักษณะที่เกินเลยความสัมพันธ์ปกติ เช่น การใช้ชีวิตเหมือนคู่รัก แม้ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ก็อาจถือว่าผิดได้หากสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ฟ้อง
ตัวอย่างเช่น

  • คู่สมรสพาชู้ไปพบปะเพื่อนหรือครอบครัว
  • คู่สมรสซื้อของให้ชู้เป็นประจำ
  • ชู้โพสต์ภาพร่วมกันในเชิงชู้สาวลงสื่อสาธารณะ

หากชู้เป็นเพศเดียวกัน สามารถฟ้องได้หรือไม่?

ปัจจุบัน การฟ้องชู้ไม่จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงเท่านั้น หากคู่สมรสนอกใจไปมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม หากมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการละเมิดความสัมพันธ์แห่งการสมรส ผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ตามกฎหมาย
แม้ในอดีต กฎหมายแพ่งไทยจะตีความการเป็นชู้ในกรอบของความสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้าม แต่ปัจจุบันแนวทางการพิจารณาคดีของศาลเริ่มให้ความสำคัญกับเจตนา การแสดงออก และพฤติกรรมที่ละเมิดสิทธิของคู่สมรสโดยรวม ไม่จำกัดเพียงแค่การสมสู่ทางเพศในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น หากฝ่ายชายมีพฤติกรรมส่อไปในทางชู้สาวกับบุคคลเพศเดียวกัน และความสัมพันธ์นั้นเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกในชีวิตสมรส ก็สามารถยื่นฟ้องเรียกค่าทดแทนได้เช่นกัน

การประเมินความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจฟ้อง

ก่อนตัดสินใจฟ้องชู้ควรประเมินปัจจัยเหล่านี้

  • ความพร้อมของหลักฐาน
  • ความเป็นไปได้ในการชนะคดี
  • ความสามารถในการจ่ายของจำเลย
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี
  • ผลกระทบทางจิตใจและสังคม

หากมีหลักฐานแน่นหนาและสามารถพิสูจน์ได้ว่าความสัมพันธ์ของตนถูกละเมิดจริง การฟ้องชู้ไม่เพียงแต่เป็นการเรียกร้องค่าทดแทน แต่ยังช่วยทวงคืนความยุติธรรมและศักดิ์ศรีที่สูญเสียไป

การฟ้องชู้ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากดำเนินการด้วยความพร้อม ทั้งในด้านหลักฐานและความเข้าใจในสิทธิทางกฎหมาย ก็สามารถเรียกค่าชดเชยได้อย่างเหมาะสม แม้กฎหมายจะไม่กำหนดตัวเลขที่แน่นอน แต่ศาลจะพิจารณาตามความเสียหายจริง ความรุนแรงของพฤติกรรม และความสามารถในการชดใช้ของผู้ถูกฟ้อง ดังนั้น การศึกษาข้อมูล ปรึกษาทนาย และเตรียมตัวให้รอบคอบคือสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจฟ้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและสร้างแบบอย่างทางกฎหมายที่ชัดเจน


สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมทีมทนายคดีอาญาและทนายคดีครอบครัว ผู้มีประสบการณ์ในการว่าความ ให้คำแนะนำและดำเนินคดีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา ฟ้องชู้เรียกค่าทดแทน ฟ้องหย่าเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคู่สมรส ฟ้องแชร์ ฟ้องคดีฉ้อโกงหรือฟ้องยักยอกทรัพย์ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม รวมถึงฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและฟ้องค่าส่วนกลางของนิติบุคคล

นอกจากนี้ เรายังมีบริการจ้างนักสืบ โดยทีมนักสืบเอกชน ช่วยตรวจสอบข้อมูล ติดตามพฤติกรรมบุคคล หรือสืบทรัพย์ บังคับคดี เพื่อให้ลูกค้าได้รับความเป็นธรรมสูงสุด รวมถึงบริการจ้างทนายไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกทางกฎหมายโดยสันติวิธี

สำหรับงานด้านมรดก เราช่วยตั้งผู้จัดการมรดกให้เป็นไปตามกฎหมาย ช่วยให้กระบวนการจัดการทรัพย์สินราบรื่น และหากต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เรายังให้บริการที่ปรึกษากฎหมาย พร้อมปรึกษาทนายความได้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นทนายคดีปกครอง หรือฟ้องแชร์ เราพร้อมดูแลทุกปัญหาทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ และรักษาความลับของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้คุณได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือองค์กร บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมเป็นที่พึ่งพาทางกฎหมายให้คุณ


ต้องการที่ปรึกษากฎหมายอย่างเร่งด่วน
ติดต่อสำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด