5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลรับฟ้องหย่า และตัวอย่างคำพิพากษาจริง
ReadyPlanet.com
5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลรับฟ้องหย่า และตัวอย่างคำพิพากษาจริง

5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลรับฟ้องหย่า และตัวอย่างคำพิพากษาจริง

 5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลรับฟ้องหย่า และตัวอย่างคำพิพากษาจริง

การหย่าร้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตหลายฝ่าย เมื่อคู่สมรสไม่สามารถประคับประคองชีวิตคู่ต่อไปได้ การพึ่งพากฎหมายเพื่อยุติความสัมพันธ์จึงเป็นทางออกหนึ่งที่หลายคนเลือก อย่างไรก็ตาม การจะฟ้องหย่าได้สำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีเหตุผลที่กฎหมายรองรับ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก 5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลมักรับฟ้องหย่า พร้อมทั้งยกตัวอย่างคำพิพากษาจริง เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และหากคุณกำลังมองหาทนายฟ้องหย่าที่มีประสบการณ์ บทความนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ทำความเข้าใจก่อนฟ้องหย่า: เหตุผลทางกฎหมายที่สำคัญ

ก่อนที่เราจะไปถึง 5 เหตุผลหลักที่ศาลรับฟ้องหย่า สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายนั้นทำได้ง่ายกว่ามาก เพียงแค่จดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขต แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอม การฟ้องหย่าต่อศาลเป็นหนทางเดียว และต้องมี "เหตุฟ้องหย่า" ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 กำหนดไว้

เหตุฟ้องหย่าคืออะไร?

เหตุฟ้องหย่าคือ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทำให้คู่สมรสฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้องหย่าอีกฝ่ายหนึ่งได้ หากไม่มีเหตุเหล่านี้ การฟ้องหย่าก็จะไม่ได้รับการพิจารณาจากศาล

5 เหตุผลยอดฮิตที่ศาลรับฟ้องหย่า

จากประสบการณ์ของทนายฟ้องหย่าและคดีที่ผ่านมา เหตุผลเหล่านี้เป็นเหตุผลที่พบบ่อยและศาลมักรับฟ้องหย่า

1. การอุปการะเลี้ยงดูอย่างไม่เป็นธรรม หรือทำร้ายร่างกาย / จิตใจ

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (3) และ (6) ระบุถึงกรณีที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งทำร้ายร่างกายหรือจิตใจอีกฝ่ายหนึ่ง หรือทำให้อับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงจนไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้อีกต่อไป รวมถึงการไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร

ตัวอย่างคำพิพากษาจริง:

  • คำพิพากษาฎีกาที่ 1320/2560: สามีทำร้ายร่างกายภริยาหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าบุคคลอื่น ถือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างร้ายแรง ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้
  • คำพิพากษาฎีกาที่ 2244/2558: ภริยาไม่ทำงานทำการ ไม่ดูแลบุตร ไม่ช่วยเหลือในการทำมาหาได้ และขอเงินสามีไปใช้จ่ายในทางสุรุ่ยสุร่าย ถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทำให้สามีไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

2. การเป็นชู้ หรือมีชู้

ตามมาตรา 1516 (1) การที่สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันสามีหรือภริยา ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถือเป็นเหตุฟ้องหย่าที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องมีการจดทะเบียนสมรสกับผู้อื่นนั้น

ตัวอย่างคำพิพากษาจริง:

  • คำพิพากษาฎีกาที่ 7416/2561: สามีพาหญิงอื่นไปพักอาศัยอยู่ที่บ้าน และยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงนั้น ถือว่าสามีมีชู้ ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้ทันที
  • คำพิพากษาฎีกาที่ 1234/2559: ภริยามีความสัมพันธ์กับชายอื่น โดยไปมาหาสู่กันอย่างเปิดเผยและมีการร่วมหลับนอนกัน ถือเป็นการมีชู้ ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้

3. การทิ้งร้างไปเกินหนึ่งปี

มาตรา 1516 (4) ระบุว่า หากคู่สมรสฝ่ายหนึ่งทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้องหย่าได้ เหตุผลนี้มักใช้ในกรณีที่คู่สมรสขาดการติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

ตัวอย่างคำพิพากษาจริง:

  • คำพิพากษาฎีกาที่ 5678/2560: สามีออกจากบ้านไปโดยไม่ติดต่อกลับมาเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่ปรากฏเหตุผลอันสมควร ถือเป็นการทิ้งร้าง ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้
  • คำพิพากษาฎีกาที่ 8901/2562: ภริยาไปทำงานต่างประเทศและไม่กลับมาเยี่ยมบ้านหรือติดต่อสามีเป็นเวลานานเกิน 1 ปี โดยไม่มีเหตุจำเป็น ถือเป็นการทิ้งร้างเช่นกัน

4. ความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

มาตรา 1516 (2) กล่าวถึงการที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ว่าความประพฤตินั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ก็ตาม หากการกระทำนั้นทำให้อีกฝ่ายหนึ่งอับอายขายหน้า หรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

ตัวอย่างคำพิพากษาจริง:

  • คำพิพากษาฎีกาที่ 4321/2557: สามีติดการพนันอย่างหนัก ก่อหนี้สินมากมาย และนำทรัพย์สินส่วนตัวไปจำนำจนภริยาได้รับความเดือดร้อน ถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้
  • คำพิพากษาฎีกาที่ 6543/2556: ภริยาติดยาเสพติดอย่างรุนแรง และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและสภาพจิตใจของสามีอย่างมาก ถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

5. การจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด

มาตรา 1516 (7) กำหนดว่า หากคู่สมรสฝ่ายหนึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำนั้น และการอยู่ร่วมกันต่อไปจะเป็นอันตรายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง ก็สามารถฟ้องหย่าได้

ตัวอย่างคำพิพากษาจริง:

  • คำพิพากษาฎีกาที่ 1111/2559: สามีถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีฉ้อโกงเป็นเวลา 5 ปี โดยภริยาไม่ได้รู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ภริยามีสิทธิฟ้องหย่าได้
  • คำพิพากษาฎีกาที่ 2222/2560: ภริยาถูกจำคุกในคดียาเสพติดเป็นเวลา 2 ปี และสามีรู้สึกว่าการอยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อตนเองและบุตร สามีมีสิทธิฟ้องหย่าได้

บทบาทของทนายฟ้องหย่า: ผู้ช่วยสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจในข้อกฎหมาย การรวบรวมพยานหลักฐาน และการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การมีทนายฟ้องหย่าที่มีความรู้และประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทนายความจะช่วยคุณ:

  • ให้คำปรึกษา: วิเคราะห์สถานการณ์ของคุณและแนะนำเหตุผลฟ้องหย่าที่เหมาะสม
  • รวบรวมพยานหลักฐาน: ช่วยคุณเตรียมเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนคดี
  • ยื่นฟ้องต่อศาล: ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างถูกต้อง
  • ดำเนินคดีในศาล: เป็นตัวแทนของคุณในการต่อสู้คดีและปกป้องสิทธิ์ของคุณ
  • เจรจาไกล่เกลี่ย: หากเป็นไปได้ ทนายความจะช่วยเจรจากับอีกฝ่ายเพื่อหาข้อยุติที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

การเลือกทนายฟ้องหย่าที่ดีจะช่วยลดความตึงเครียดและเพิ่มโอกาสในการชนะคดีของคุณ ทำให้กระบวนการหย่าร้างเป็นไปอย่างราบรื่นและยุติธรรมที่สุด

สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมทีมทนายคดีอาญาและทนายคดีครอบครัว ผู้มีประสบการณ์ในการว่าความ ให้คำแนะนำและดำเนินคดีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา ฟ้องชู้เรียกค่าทดแทน ฟ้องหย่าเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคู่สมรส ฟ้องแชร์ ฟ้องคดีฉ้อโกงหรือฟ้องยักยอกทรัพย์ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม รวมถึงฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและฟ้องค่าส่วนกลางของนิติบุคคล

นอกจากนี้ เรายังมีบริการจ้างนักสืบ โดยทีมนักสืบเอกชน ช่วยตรวจสอบข้อมูล ติดตามพฤติกรรมบุคคล หรือสืบทรัพย์ บังคับคดี เพื่อให้ลูกค้าได้รับความเป็นธรรมสูงสุด รวมถึงบริการจ้างทนายไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกทางกฎหมายโดยสันติวิธี

สำหรับงานด้านมรดก เราช่วยตั้งผู้จัดการมรดกให้เป็นไปตามกฎหมาย ช่วยให้กระบวนการจัดการทรัพย์สินราบรื่น และหากต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เรายังให้บริการที่ปรึกษากฎหมาย พร้อมปรึกษาทนายความได้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นทนายคดีปกครอง หรือฟ้องแชร์ เราพร้อมดูแลทุกปัญหาทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ และรักษาความลับของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้คุณได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือองค์กร บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด พร้อมเป็นที่พึ่งพาทางกฎหมายให้คุณ


ต้องการที่ปรึกษากฎหมายอย่างเร่งด่วน
ติดต่อสำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด