โพสต์-แชร์-คอมเมนต์ในโซเชียลแบบไหน เสี่ยงคดีหมิ่นประมาทด้วย พ.ร.บ.คอมฯ?

รู้ให้ชัดว่าแค่ไหนถึงเข้าข่ายหมิ่นประมาท พร้อมเช็กองค์ประกอบความผิดก่อนตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การแสดงความคิดเห็นหรือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ความสะดวกในการสื่อสารก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกตัวอักษรที่คุณพิมพ์ ทุกโพสต์ที่คุณแชร์ หรือทุกคอมเมนต์ที่คุณเขียน ล้วนมีผลทางกฎหมายที่อาจนำไปสู่คดีฟ้องหมิ่นประมาท ด้วยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ได้ บทความนี้จะสรุปพฤติกรรมเสี่ยงและแนวทางการป้องกัน เพื่อให้คุณใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างปลอดภัย

ทำความเข้าใจกฎหมาย: หมิ่นประมาทตาม พ.ร.บ.คอมฯ คืออะไร?

การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาททางออนไลน์ถือเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งต่างจากการหมิ่นประมาททั่วไปตรงที่การหมิ่นประมาททางออนไลน์จะถูกพิจารณาตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีสาระสำคัญคือ "การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความปลอดภัยสาธารณะ หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก" และ "การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา"

การกระทำที่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายนี้คือการเผยแพร่ "ข้อมูลอันเป็นเท็จ" ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ซึ่งผู้ที่กระทำความผิดจะต้องรับโทษทั้งจำและปรับ

พฤติกรรมเสี่ยงคดีหมิ่นประมาททางออนไลน์

1. การโพสต์ข้อความหรือรูปภาพที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

การโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงและทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความเสียหายทางธุรกิจ เช่น การกล่าวหาว่าบุคคลใดทุจริต, การเผยแพร่ข่าวปลอมที่ทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาททางออนไลน์โดยตรง

2. การแชร์ข้อความจากบุคคลอื่น

หลายคนเข้าใจผิดว่าการ "แชร์" ข้อความที่ผู้อื่นโพสต์นั้นไม่เป็นความผิด แต่ตามหลักกฎหมายแล้วการแชร์ก็ถือเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน หากข้อความที่คุณแชร์เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จและก่อให้เกิดความเสียหาย คุณก็จะมีความผิดร่วมด้วย ดังนั้น ก่อนจะกดแชร์โพสต์ใด ๆ ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างถี่ถ้วน

3. การคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำหยาบคายหรือเป็นเท็จ

การคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นก็เป็นอีกพฤติกรรมที่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำดูหมิ่น, การกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง หรือการให้ข้อมูลเท็จในคอมเมนต์ล้วนแต่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าคอมเมนต์นั้นจะถูกลบไปแล้วก็ตามแต่ก็ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้

แนวทางป้องกัน: โพสต์-แชร์-คอมเมนต์อย่างไรให้ปลอดภัย

• ตรวจสอบความจริงก่อนเสมอ: ก่อนโพสต์หรือแชร์ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาและความถูกต้องของข้อมูลให้แน่ใจ ไม่ควรเชื่อข้อมูลเพียงเพราะเห็นจากโพสต์เดียว
• หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำรุนแรง: งดเว้นการใช้คำหยาบคาย, คำดูถูก หรือถ้อยคำที่ส่อไปในทางหมิ่นประมาท
• ใช้สติมากกว่าอารมณ์: หากรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องใด ควรใช้เวลาไตร่ตรองก่อนแสดงความคิดเห็น เพราะอารมณ์ชั่ววูบอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในภายหลัง

ปรึกษากฎหมายคดีหมิ่นประมาทอย่างเชี่ยวชาญกับ สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด

หากคุณกำลังเผชิญกับคดีฟ้องหมิ่นประมาททางออนไลน์ หรือต้องการคำปรึกษาเพื่อป้องกันปัญหาด้านกฎหมาย สำนักทนายความ บริษัท สัจธรรมกฎหมายและนักสืบ จำกัด คือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และคดีอาญา เราพร้อมให้คำแนะนำและบริการทางกฎหมายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงการดำเนินคดี เพื่อปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของคุณอย่างเต็มที่